แพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษเมื่อต้องการหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาสุขภาพผู้ป่วย เครื่องมือหลักสองชนิดที่ใช้กันคือเข็มเจาะดูดเซลล์ทางพยาธิวิทยาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (EUS FNA) และเข็มเจาะชิ้นเนื้อแบบ Core แม้ว่าชื่อเรียกอาจฟังดูคล้ายกันแต่เครื่องมือทั้งสองชนิดนี้มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงและมีกลไกการทำงานที่ช่วยให้การทำงานของแพทย์สะดวกมากยิ่งขึ้น
เข็มเจาะดูดเซลล์ทางพยาธิวิทยาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (EUS FNA) × เข็มเจาะชิ้นเนื้อแบบ Core สำหรับก้อนแข็งในตับอ่อน: การเปรียบเทียบแบบตรง
ทั้งเข็ม EUS FNA และเข็มตัดชิ้นเนื้อแบบ core biopsy สามารถช่วยแพทย์ในการนำชิ้นส่วนเล็กๆ ของเนื้อเยื่อออกมาจากภายในร่างกาย แต่การทำงานของเข็มทั้งสองชนิดนี้มีความแตกต่างกันอย่างมาก เข็ม EUS FNA จะถูกใช้ในขั้นตอนการตรวจที่เรียกว่า อัลตราซาวด์ทางระบบกล้อง (EUS) โดยจะใช้ท่อที่ยาวและเรียวซึ่งมีกล้องอยู่ด้านในสอดเข้าไปในร่างกาย เพื่อให้สามารถมองเห็นอวัยวะต่างๆ ได้อย่างละเอียด จากนั้นจึงค่อยสอดเข็ม FNA เข้าไปเพื่อเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อบริเวณเป้าหมาย ส่วนเข็มตัดชิ้นเนื้อแบบ core biopsy มีขนาดหนาขึ้นมาก สามารถตัดเอาเนื้อเยื่อชิ้นใหญ่กว่าออกมาได้ โดยมักใช้ภาพจากเครื่องอัลตราซาวด์หรือเครื่อง CT scan เป็นตัวช่วยในการนำทาง
การแยกแยะระหว่างเข็ม EUS FNA และเข็มตัดชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy
หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือปริมาณตัวอย่างที่แพทย์เก็บรวบรวมเข็มสำหรับการเจาะดูดน้ำเหลวโดยละเอียด (FNA) มีลักษณะบางและสามารถเก็บชิ้นเนื้อขนาดเล็กได้ แพทย์จะนำชิ้นส่วนเล็กๆ เหล่านี้ไปส่องดูภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจหาโรค เช่น มะเร็ง หรือการติดเชื้อ ส่วนเข็มชิ้นเนื้อแบบ core biopsy จะสามารถเก็บชิ้นเนื้อที่ใหญ่กว่าได้ ทำให้แพทย์เห็นเนื้อเยื่อและเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น นำไปสู่การวินิจฉัยที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
การเลือกใช้เข็ม FNA ผ่านทาง EUS กับเข็มชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy
แพทย์คำนึงถึงปัจจัยหลายอย่างในการตัดสินใจว่าจะใช้เข็ม FNA ผ่านทาง EUS หรือเข็มชิ้นเนื้อแบบ core biopsy โดยพิจารณาคำถามต่าง ๆ เช่น ปริมาณตัวอย่างที่ผู้ป่วยควรได้รับ ตำแหน่งของเนื้อเยื่อ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย ในบางครั้ง แพทย์อาจใช้ทั้งสองชนิดของเข็มเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์เกี่ยวกับอาการของผู้ป่วย
แนวทางปฏิบัติทางคลินิก: การเปรียบเทียบเข็ม FNA ผ่านทาง EUS กับเข็มชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy
เข็มมีบทบาทสำคัญในการระบุปัญหาสุขภาพที่หลากหลายในโรงพยาบาลสำหรับแต่ละกรณีเหล่านี้ การใช้เข็ม FNA ผ่านทาง EUS เข็มชันสูตรอัลตราซาวด์ มักใช้ในการเก็บตัวอย่างจากบริเวณที่เข้าถึงได้ยากภายในร่างกาย เช่น ตับอ่อน หรือตับ ขนาดเล็กกะทัดรัดช่วยให้แพทย์สามารถเก็บตัวอย่างได้อย่างแม่นยำ เข็มเจาะชิ้นเนื้อแบบคอร์กมักใช้ในอวัยวะขนาดใหญ่ เช่น ปอด หรือไต ซึ่งจำเป็นต้องได้รับตัวอย่างที่ใหญ่กว่าเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
สรุป EUS FNA needle/core biopsy needle เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สำคัญ 2 ชนิด มีจุดประสงค์การใช้งานแตกต่างกัน มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะของแต่ละชนิด การเข้าใจข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละแบบ อาจช่วยให้ทั้งผู้ป่วยและแพทย์ตัดสินใจเลือกเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับการตรวจหาและรักษาโรค โดยการรู้ว่าเมื่อใดและอย่างไรที่จะใช้เข็มแต่ละชนิด ทำให้แพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพ
สารบัญ
- เข็มเจาะดูดเซลล์ทางพยาธิวิทยาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (EUS FNA) × เข็มเจาะชิ้นเนื้อแบบ Core สำหรับก้อนแข็งในตับอ่อน: การเปรียบเทียบแบบตรง
- การแยกแยะระหว่างเข็ม EUS FNA และเข็มตัดชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy
- การเลือกใช้เข็ม FNA ผ่านทาง EUS กับเข็มชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy
- แนวทางปฏิบัติทางคลินิก: การเปรียบเทียบเข็ม FNA ผ่านทาง EUS กับเข็มชิ้นเนื้อแบบ Core Biopsy

EN
AR
BG
CS
DA
NL
FI
FR
DE
EL
HI
IT
JA
KO
NO
PL
PT
RO
RU
ES
ID
SR
SK
UK
VI
SQ
HU
TH
TR
FA
GA
HY
KA
BN
BS
LA
MN
UZ
KY